Love Suck! เกลียดนัก...รักดูไหม? // NC ตอนที่ 15 [Rewrite]
[ซัน]
“อื้อ อ อ!!” ผมก้มลงครอบครองริมฝีปากแดงสดของคนด้านล่าง
ไล่เลียเล็มไปรอบๆ ริมฝีปากและขบเม้ม ก่อนที่บีทส์จะเป็นฝ่ายเปิดริมฝีปากออก ผมไม่รอช้าส่งเรียวลิ้นของตัวเองเข้าไปสำรวจโพรงปากของคนใต้ร่างอย่างหื่นกระหาย
เสียงจูบกันยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง.. ต่างคนต่างแลกสัมผัสกันอย่างเมามัน
จนหลงลืมสิ่งที่เคยคิดว่าควรหรือไม่ควร
“อ่ะ อื้อ อ อ พะ พี่ซัน
อื้อ อ” เสียงครางกระเส่าที่ถูกส่งออกมาจากปากของคนใต้ร่างทำให้ผมที่คร่อมอยู่ด้านบนยิ่งได้ใจ
ตวัดเรียวลิ้นเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กของอีกคนอย่างร้อนแรง มันเองก็พยายามจูบตอบผมกลับมาเหมือนกันจนหยาดน้ำใสเปรอะเปื้อนไปรอบริมฝีปากสีสวย
ผมพยายามสอนบทจูบให้อีกคนอย่างค่อยๆ
เป็นค่อยๆ ไป บีทส์ได้แต่จูบตอบผมอย่างเงอะงะ มือเรียวทั้งสองข้างของมันทำได้แค่โอบรอบคอผมไว้
“แค่ตามเกมของกูก็พอ
ไม่ต้องคิดอะไร โอเคไหม” ผมกระซิบรอดไรฟัน
เพราะมัวแต่ไล่ต้อนลิ้นเล็กไม่ประสีประสาของอีกคน
ที่เหมือนจะตอบรับแต่ก็หลีกหนีอยู่ในที มันยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบในตัวผม
“อื้อ อ ตะ แต่ อื้ม ม ม
ผมกลัว ว” บีทส์เอ่ยออกมาเสียงอู้อี้
ผมยอมปล่อยปากอีกคนให้เป็นอิสระ และเปลี่ยนเป็นพรมจูบลากวนตั้งแต่ใบหน้าเลื่อนมาที่ใบหูขาว
ก่อนจะหยุดขบติ่งหูของมันเบาๆ จนมันครางฮือแถมยังแอ่นอกขึ้นรับสัมผัสของผมที่ซุกอยู่ตรงซอกคอของมันไม่ห่าง
“แค่มึงเชื่อกูก็พอ
แล้วมึงจะไม่เป็นอะไร” ผมพูดออกมาเสียงกระเส่า จนแม้แต่ตัวเองก็ยังแปลกใจว่าทำไมถึงได้อยากลิ้มลองร่างเล็กตรงหน้านัก
หากจะอ้างว่าเป็นเพราะแอลกอฮอล์ก็คงไม่ถูก เขาเพียงแค่ ‘กึ่มๆ’ แต่ไม่ได้เมาถึงขนาดทำอะไรโดยไม่รู้ตัว
“อ๊ะ อื้อ ยะ
อย่ากัดสิครับ ผมอึกจักจี้ อื้อ”
ก็ถ้าจะน่ารักขนาดนี้
ความคิดแรกที่ปรากฏอยู่ในหัวของผม
บีทส์พยายามเอียงหนีสัมผัสการรุกรานของผมที่ตามขบเม้มอยู่ตรงซอกคอ
ลากวนลงมาถึงแผ่นอกเปลือยเปล่า
ผมเงยหน้ามองเรือนร่างขาวผ่องของคนใต้ร่างที่ส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้
ชวนให้ดูเซ็กซี่และเชิญชวนที่สุดในสายตาผม อาจเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ร่างเล็กดื่มเข้าไปในปริมาณมาก
ผมแทบอดใจไม่ไหวอยากจะฉีกร่างกายตรงหน้าออกสำรวจให้ครบทุกซอกทุกมุม
“หึ กูไม่เชื่อหรอกว่ามึงจะยังไม่เคย
ดูจากปฏิกริยาตอบรับของร่างกายมึงสิ แค่กูลูบ น้องชายมึงก็ลุกขึ้นสู้มือกูแล้ว” ผมยิ้มเยาะ
"อ๊ะ อือ อ" คนใต้ร่างเอ่ยออกมาเสียงสะท้าน
เมื่อผมสอดมือเข้าไปในกางเกงนอนตัวโคร่งแล้วกอบกุมอวัยวะส่วนนั้นของมันไว้เต็มมือ
"หึ เห็นไหมว่ามันสู้มือกูด้วย" ผมยิ้มหื่นกระหาย
อีกคนบิดตัวหนี
"อือ มะ ไม่เอานะ อ๊ะ เอามือออกไป
อื้อ อ" บีทส์พยายามปัดมือผมออก
"ไม่ทันแล้วบีทส์"
พรึ่บ!
ผมถอดกางเกงตัวโคร่งของคนตัวเล็กออก
ก่อนลุกขึ้นถอดเสื้อและกางเกงของตัวเองออกบ้างเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่า เผยให้เห็นหน้าอกแกร่งที่มีกล้ามเนื้อแบบคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
หมับ!
"จะไปไหน" ผมคว้าไหล่บางไว้สองมือ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงนุ่ม
เมื่อคนที่กำลังนอนอ่อนระทวยอยู่บนเตียง ขยับตัวจะลงจากเตียง
"ผม อึก อึดอัด" ใบหน้าสวยบิดเบี้ยว
โดยที่มืออีกข้างชี้ไปที่ไอ้ตัวต้นเหตุที่อยู่ภายใต้กางกางในตัวจิ๋วสีเทา ที่กำลังชูคอท้าทายสายตาคนมอง
'เหมือนกับมังกรของผม' ที่ข้างในมันปวดตุบๆ พร้อมจะออกรบเต็มที่ จนอยากจะรีบทำให้เสร็จๆ
ให้ตัวเองได้หายทรมาร
'ถ้าหากได้กระแทกเข้าไปแรงๆ
ก็คงจะดี'
หมับ!
“ไม่เป็นไร
เดี๋ยวมันจะดีเอง” ผมพูดเสียงพร่า
ก่อนจะคว้าเอาร่างบีทส์มาพรมจูบ ผมใช้มือสองข้างประคองหน้าของน้องมันไว้ เราสองคนเหมือนมีแรงดึงดูดต่อกัน
ต่างคนต่างแลกจูบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ผมผละออกจากริมฝีปากของบีทส์ ค่อยๆ
ไล่เล็มลงมาที่แผงอกขาว
ก่อนจะใช้ปากครอบครองยอดอกสีสวย
มืออีกข้างก็กอบกุมอยู่ที่ยอดอกข้างที่เหลือแล้วใช้ปลายนิ้วบดขยี้ คนใต้ร่างเริ่มส่งเสียงคราง บีทส์ดิ้นเร่าด้วยความทรมาน ใช้มือครอบครองส่วนอ่อนไหวของตัวเอง
“อ่าส์~ อื้อ อ”
ผมผละมือออกจากยอดอกสีสวย แล้วลากวนลงไปที่ส่วนอ่อนไหวของอีกคนไมลืมแตะมือขาวนั่นเบาๆ
เลื่อนผ่านไปที่ส่วนด้านหลัง ก่อนจะค่อยๆ สอดนิ้วกลางเข้าไปหยอกเย้า ทำให้คนใต้ร่างสะดุ้งเฮือก
“เฮือก! อ๊ะ อื้อ เอาออกไป! อ๊ะ อื้อ” บีทส์พยายามขยับหนี ผมรีบถอนมือออกก่อนจะเลื่อนตัวไปครอบครองริมฝีปากบางของอีกคนไว้เพื่อเบี่ยงความสนใจแล้วเอ่ยปลอบอีกคนจนยอมสงบ
ในตอนแรกบีทส์พยายามปฏิเสธ แต่ผมก็อาศัยประสบการณ์ทำให้มันยอมเปิดปากให้อีกครั้งแล้วเพิ่มจำนวนนิ้วขึ้นเรื่อยๆ
จากหนึ่งเป็นสองและสามในที่สุด
“อื้อ จะ เจ็บ !” บีทส์สะดุ้งเฮือกเมื่อผมเริ่มขยับนิ้ว
“หายใจเข้าลึกๆ ใจเย็นๆ
อย่าเกร็งไม่งั้นมึงจะเจ็บ แบบนั้นแหละเด็กดี” ผมพยายามพูดโน้มน้าว
บีทส์พยายามสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ ทำตามคำแนะนำ
“ยกขาขึ้น อีกนิด..อื้ม
จะรัดแน่นไปไหนวะ ผ่อนคลายหน่อย” ผมขยับแทรกตัวเข้าไปแนบชิดคนตัวขาว
ร่างกายเปลือยเปล่าของเราสองคนเสียดสีกันไปมา ก่อนที่ผมจะฉวยโอกาส...
สวบ!
เฮือก!
“โอ๊ย!! พะ พี่ ผมเจ็บ อึก ฮือ” น้องมันสะดุ้งเฮือกเมื่อผมเอามือออกจากส่วนด้านหลังแล้วแทนที่ด้วยส่วนกลางกายที่เตรียมพร้อมไว้นานแล้ว
“ชู่ว เงียบๆ อย่าร้อง พี่บอกให้หายใจเข้าลึกๆ อ่าส์ อย่าเกร็งไงครับ” ผมกัดฟันพูดบอกเสียงนุ่ม พยายามจูบซับน้ำตาออกจากหางตาคู่สวย
มือข้างซ้ายประสานไว้กับมือข้างขวาของบีทส์ ส่วนด้านล่างยังคงเชื่อมต่อกันอยู่
สัมผัสได้ถึงของเหลวสีสดที่ไหลออกมา
ผมขบกรามแน่น
ตอนนี้เดินมาไกลเกินกว่าจะหยุดแล้ว
“จะเริ่มขยับแล้วนะ” ผมกระซิบบอกรอดไรฟัน ก่อนจะเอื้อมมือไปกอบกุมส่วนออกไหวทางด้านหน้าของอีกคนแล้วขยับมือเข้าออกเป็นจังหวะ
บีทส์ทำได้แค่พยักหน้ากัดฟันแน่น ก่อนจะเริ่มครางในลำคอเมื่อผมขยับมือชักเข้าออกเร็วขึ้นสอดรับกับจังหวะการขยับสะโพกของผม
“อ๊ะ อื้อ อ อ่าส์”
พับ พับ พับ!
เสียงเนื้อกระทบกันดังต่อเนื่องเป็นระยะ พร้อมกับเสียงครางกระเส่าของเราทั้งคู่ที่ดังอยู่ไม่ขาด
“อ๊ะ อ๊า อ๊า ตะ ตรงนั้น
อื้อ ผมไม่ไหวแล้ว อ๊าส์~” ริมฝีปากสีแดงสดทำได้แค่ส่งเสียงครางออกมา
ผมยิ้มมุมปากเมื่อรู้ว่ากระแทกโดนจุดกระสันของอีกคน
ร่างเล็กสั่นไหวไปตามแรงกระแทกยิ่งผมออกแรงมากเท่าไหร่ร่างเล็กก็ยิ่งตอดรับผมถี่ขึ้นจนในที่สุดน้องมันก็ร้องออกมาก่อนน้ำขาวขุ่นจะทะลักออกมาเต็มมือผม
เมื่อคนด้านล่างถึงจุดหมายผมเองก็ไม่อยากปล่อยเวลาให้ผ่านพ้นไป
เร่งจังหวะกระแทกสะโพกถี่รัว พอใกล้ถึงจุดหมายผมก็พยายามอดกลั้นเอาไว้ไม่ยอมเสร็จง่ายๆ
“อ่าส์~ สัด เพิ่งรู้ว่าข้างหลังมันจะรัดแน่นขนาดนี้ แค่ยัดเข้าก็แทบแตก” ผมพูดอย่างใจคิด ช่องทางด้านล่างของเรายังคงเชื่อมกันอยู่
บีทส์สูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะขยับตัวใช้มือนวดที่หลัง เดาว่ามันคงปวดหลังเพราะกิจกรรมรักครั้งแรกของเรามันเกิดที่ ‘โซฟา’ ดีที่เป็นโซฟาขนาดไม่เล็กมาก
ไม่งั้นคงได้กอดกันร่วง
“เอ่อ คือ...” น้องเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาบ้าง
เพราะช่องทางด้านล่างยังคงเชื่อมกันอยู่จึงขยับไปไหนไม่ได้มาก
พรึ่บ!
“อ๊ะ!” น้องมันร้องด้วยความตกใจผวากอดหมับเข้าที่คอผม เมื่อผมรวบร่างเล็กขึ้นมาแนบอก ขาทั้งสองข้างของบีทส์ก็รัดแน่นที่เอวผมเพราะกลัวตก
จังหวะการเคลื่อนไหวของเราทำให้ผมเสียวจนขนลุก แต่พยายามกัดฟันเดินต่อ
ยิ่งเดิน...มันก็ยิ่งลึก
“อื้อ อ” น้องมันหลับตากัดปาก พยายามกลั้นเสียงครางของตัวเองไว้
“หึหึ ไม่ต้องกลั้น
กูอยากได้ยินเสียงมึง ไหนๆ ก็ไหนแล้ว ขออีกรอบที่เตียงก็แล้วกัน” ผมกระซิบที่ข้างหูน้อง ก่อนจะใช้ริมฝีปากเลียติ่งหูของอีกคน บีทส์พยายามร่นคอหนี
“หว๊า~! มะ เหวอ~!” ยังไม่ทันที่อีกคนจะได้เอ่ยปากปฏิเสธก็ถึงเตียง
ผมปล่อยน้องมันลงกลางที่นอนหนานุ่ม
ก่อนจะตามเข้าไปทาบทับโดยไม่ปล่อยให้เกิดช่องว่าง
แน่นอนว่าค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล…
ปล. ยังไม่จบตอนนะคะ กลับไปที่ตอนเดิมนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น