“เป็นแฟนกันมั้ย”
“ละ...ล้อผมเล่นหรือเปล่า”
“ไม่เคยจริงจังเท่านี้มาก่อน”
เขายืนยันเสียงหนักแน่น
ผมกลั้นยิ้ม
“เป็นแฟนกันนะ”
ผมหลุบตาลง ก่อนจะพยักหน้ารับ
“อืม”
พี่สองโน้มตัวลงมากดจูบผม
จูบนี้เนิ่นนานกว่าจูบที่ผ่านมา ลิ้นของพี่สองชอนไชไปตามโพรงปากของผม
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังผมก็สัมผัสกับเตียง
ผมลืมตาโพลง ยกมือขึ้นดันหน้าอกพี่สองไว้
“เดี๋ยว”
พี่สองเลิกคิ้ว
ทำหน้าไม่เข้าใจ
ผมเม้มปาก “จะไม่เร็วไปหน่อยเหรอ
เราเพิ่งคบกันเองนะ”
“ช้าหรือเร็วก็มีค่าเท่ากัน” คำตอบของพี่สองทำให้สองแก้มผมร้อนฉ่า
จะตรงไปไหน...
ผมมองคนที่กำลังถอดเสื้อของตัวเองเขวี้ยงทิ้งไปข้างเตียง
ก่อนจะเปิดปากสารภาพ
“ผมกลัว...” เจ็บ
พี่สองหันมายิ้มอบอุ่น เคลื่อนตัวมาคร่อมอยู่บนตัวผมอีกครั้ง
ก่อนจะโน้มตัวลงมาครอบครองริมฝีปากผม ดูดดุนจนเกิดเสียง แล้วผละออกมากระซิบแผ่วเบา
“ไม่ต้องกลัว เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”
ผมดิ้นเร้าอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่ เมื่อพี่สองสอดมือเข้ามาใต้เสื้อ
ก่อนจะใช้นิ้วโป้งคลึงที่ยอดอก มืออีกข้างสอดเข้าไปในกางเกงผม แล้วลูบไล้อยู่แถวๆ
ท้องน้อย
ลมหายใจอุ่นร้อนของพี่สองปัดป่ายอยู่ติ่งหูจนขนลุกซู่
ถึงแม้ผมจะยังไร้ประสบการณ์ สำหรับการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย
แต่ผมก็พยายามตอบรับสัมผัสของพี่สองด้วยความยินดี
คนด้านบนพยายามปรนเปรอให้ผมได้ไปถึงฝั่งฝันก่อนเป็นครั้งแรกด้วยมือและปาก ร่างผมกระตุกเกร็ง
ก่อนจะอ่อนระทวยในอ้อมกอดเขา
พี่สองถอดเสื้อกับกางเกงของผมออกแล้วโยนทิ้ง ก่อนจะโน้มตัวลงมาไล่จูบติ่งหู
ลำคอและไหปลาร้า ขณะเดียวกันก็ถอดปราการชิ้นสุดท้ายของผมออกไปด้วย
ผมยกขาข้างหนึ่งเบี่ยงหนี ไม่ให้พี่สองมอง
เขาเงยหน้ามองผมแล้วส่งยิ้มอบอุ่นมาให้อีกครั้ง
“ไม่ต้องอาย พี่ไม่เคยรังเกียจน๊อต” เอ่ยปลอบพลางใช้มือแหวกขาของผมออกจากกัน
ผมเม้มปาก ตาของเรายังมองสบกันอยู่ พี่สองพยายามปลอบประโลมไม่ให้ผมอายทางสายตา
ครั้งแรกที่พี่สองพยายามแทรกกายเข้ามา ผมเกร็งจนลืมหายใจ
ช่องทางอ่อนไหวสัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกปลอมอุ่นร้อนที่แทรกเข้ามาในร่าง ชั่วขณะนั้นผมกำผ้าห่มแน่น
พี่สองพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของผมด้วยปากและมือ
พลางส่งเสียงบอกให้ผมผ่อนคลาย แต่ครั้งแรกมันยากเสมอ แม้เขาจะใช้น้ำลายช่วยหล่อลื่นบริเวณปากทางเข้าและสวมถุงยางอนามัยแล้วก็ตาม
กว่าพี่สองจะแทรกกายผ่านเข้ามาได้ น้ำตาผมก็ไหลออกจากหางตาทั้งสองข้าง พี่สองกอดผมไว้
ผมหลับตา กัดฟันแน่น
“ขอโทษนะ อย่าร้องเลย พี่ไม่ทำแล้วก็ได้”
พี่สองกระซิบข้างหู เสียงกัดฟันกระทบกันดัง ผมรู้ว่าเขาเองก็อดทนและทรมานไม่แพ้ผม
“ขะ...ขยับเลย
ผมทนได้”
พี่สองเอียงหน้ามากดจูบซับน้ำตาให้ผมแทนคำพูด
ก่อนจะใช้สองมือยันกับเตียง ค่อยๆ เริ่มขยับเอวสอบด้วยจังหวะช้าเนิบ แม้จะรู้สึกเจ็บปวดเหมือนร่างกายท่อนล่างฉีกขาด
แต่ความอ่อนโยนของพี่สองก็ช่วยชโลมหัวใจผมให้อุ่นขึ้น
ขณะเดียวกัน มือข้างหนึ่งของเขาช่วยปรนเปรอส่วนด้านหน้าจนผมบิดเกร็ง
จวบจนถึงปลายทางของพี่สอง ผมก็พบความสุขสม
เสียงหายใจหอบกระเส่าของพี่สองดังอยู่ข้างหู
เขากอดผมแน่น ผมรู้ว่าตัวเองกัดเขาแรงมาก แม้จะรู้สึกผิดและอยากลุกขึ้นมาทำแผลให้
แต่ตอนนี้ผมไม่กล้าแม้จะขยับตัว พี่สองค่อยๆ ถอนกายของจากตัวผมช้าๆ เขาหันซ้ายขวา
คว้าเสื้อมาเช็ดทำความสะอาดตัวเองแล้วหยิบกางเกงมาสวม
ผมนอนมองเขาอย่างเหม่อลอย
พี่สองเดินเข้ามาหา ก้มจูบหน้าผากชื้นเหงื่อของผมหนึ่งทีอย่างอ่อนโยน "พอแล้วเหรอ" ผมอดถามเขาไม่ได้
เขาเลิกคิ้ว พอเห็นผมอึกอักเขาก็เข้าใจ "แค่นี้มึงก็ไม่ไหวแล้ว" เมื่อเห็นผมจ้องเขาก็อธิบายต่อ "พอแล้ว ครั้งแรกของมึง ดอกเดียวก็เกินรับ ค่อยทำยอดต่อคราวหน้า"
ผมซุกหน้าลงหมอน แก้มร้อนจัด
พี่สองหัวเราะ ก่อนจะลูบหัวผม “นอนเถอะ”
สองคำสั้นๆ
ของเขาเป็นเหมือนสวิตช์ปิดรับการรับรู้ของผม
ระหว่างสะลึมสะลืออยู่นั้น
พี่สองก็ปลุกผมให้ตื่นขึ้นมากินยา จากนั้นผมก็ล้มตัวนอนสลบไสล จำได้เลือนรางว่ามีคนเช็ดตัว
ใส่เสื้อผ้าให้ ก่อนจะตามมาด้วยอ้อมกอดอบอุ่น
ผมซุกหน้าเข้าหาความอบอุ่นนั้นแล้วหลับสนิท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น